ข่าวภาคใต้
ภูเก็ตสั่งปิดไซต์ก่อสร้าง ลดความเสี่ยง COVID-19

ปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19
เนื่องจากกิจการของสถานประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง การก่อสร้าง หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะเดียวกับการก่อสร้าง ลูกจ้างแรงงานไทยและต่างด้าวจำนวนมาก อาจเป็นปัจจัยหนึ่งในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เนื่องจากการดำเนินงานก่อสร้างต้องเคลื่อนย้ายแรงงานและลูกจ้างไปยังสถานที่ก่อสร้าง ประกอบกับสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาภูเก็ตได้มีหนังสือแจ้งเกี่ยวกับผลกระทบที่ได้รับการมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการติดต่อโรคและการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7 (1) ประกอบข้อ 2 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 20/2563 เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2563 จึงออกคำสั่งไว้ ดังนี้
1. ปิดสถานที่การดำเนินกิจการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง การก่อสร้าง หรือสถานประกอบการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เว้นแต่โครงการเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งโดยได้รับการรับรองจากทางราชการ หรือโครงการในการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19
2. มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ของลูกจ้างแรงงานไทยและต่างด้าวในสถานที่พัก (แคมป์คนงาน) ให้ผู้ประกอบการดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) กำชับลูกจ้าง หรือแรงงานชาวไทยและต่างด้าว ให้ทำความสะอาดสถานที่พักและกำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
(2) ให้ผู้ประกอบการจัดหาหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า สบู่ แอลกอฮอล์ เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ให้ลูกจ้างหรือแรงงานให้เพียงพอ
(3) ในการใช้ชีวิตประจำวันให้ลูกจ้างหรือแรงงานออกจากสถานที่พัก (แคมป์คนงาน) ให้น้อยที่สุด และให้รักษาระยะในการนั่งหรือยืนให้ห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัสหรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละออง
(4) กำชับลูกจ้าง หรือแรงงาน ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
3. ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับอำเภอ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจัดบุคลากรเข้าไปตรวจวัดไข้ลูกจ้างหรือแรงงานทั้งชาวไทยและต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่ หากพบผู้ใดมีอาการซึ่งเข้าข่ายที่ต้อง เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2563 จนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563
สั่ง ณ วันที่ 14 เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓
- ข่าวโควิด-199 months ago
ตม. ขยายเวลา ไม่ต้องยื่นต่อวีซ่า ถึง 31 กรกฏาคม 63
- ข่าวไทย9 months ago
แนวทางรายงานผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการโควิด 19
- การเงิน การลงทุน8 months ago
รวม 10 ของน่าขาย ช่วงโควิด-19 ขายอะไรดี?
- ข่าวโควิด-199 months ago
เกาะสมุยแถลง พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่ม 2 ราย
- ข่าวโควิด-1910 months ago
ภูเก็ต สั่งปิดโรงแรมทั่วเกาะ ป้องกัน COVID-19 กระจาย
- ข่าวไทย8 months ago
ขนส่งเกาะสมุย เลื่อนเปิดต่อใบขับขี่ ไม่มีกำหนด
- ข่าวโควิด-1910 months ago
วิธีและเงื่อนไขการลงทะเบียนรับเงินประกันไฟฟ้า เริ่ม 25 มี.ค. นี้
- ข่าวไทย8 months ago
สถิติหวยปี 63 เลขเด็ด เลขดัง เลขไหนจะออกงวดนี้?
You must be logged in to post a comment Login